เรื่องของสิทธิ และเสรีภาพ คือสิ่งสำคัญที่มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้ควรได้รับเอาไว้อย่างเท่าเทียมไม่ใช่แค่การได้รับความเป็นมนุษย์แต่กลับไม่ได้สิทธิและเสรีภาพใดๆ ทั้งสิ้นต่อการใช้ชีวิตเลย แบบนี้ก็คงเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่ายินดีเท่าไหร่นัก ปกติแล้วเมื่อโลกของเราถูกมองว่ากลายเป็นโลกที่ควรต้องมีความยุติธรรมบรรดาบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้พอถึงเวลาที่พวกเขาประสบความสำเร็จในเรื่องใดสักอย่างก็มักจะได้รับการยกย่องจากคนทั่วไปในด้านดีๆ เหมือนกับที่ Dr. Clarence G Newsome เคยได้รับการยกย่องจากคนที่เชื่อมั่นในการมีสิทธิและเสรีภาพต่อตนเองและผู้อื่นด้วย
ทำความรู้จักกับประวัติของ Dr. Clarence G Newsome
Dr. Clarence G Newsome เคยเป็นอดีตประธานของศูนย์เสรีภาพรถไฟใต้ดินแห่งชาติในเมืองซินซิเนติ รัฐโอไฮโอ สหรัฐฯ เคยเป็นอดีตของประธานมหาวิทยาลัยชอว์ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำหน้าที่เป็นคณบดีของ The School of Divinity ณ มหาวิทยาลัยโฮเวิร์ด นอกจากนี้ยังเป็นคณาจารย์ใน Duke Divinity School เป็นเวลาถึง 8 ปีด้วยกัน Duke Divinity School เป็นศิษย์เก่ารุ่นที่ 3 ของ Duke Divinity School เขาได้รับวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีคณะเกี่ยวกับศาสนาในปี 1972 ได้รับวุฒิการศึกษาปริญญาโทในปี 1975 และได้รับวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาเอกตอนปี 1982 สาขาศาสนาเช่นกัน เขาเคยดำรงตำแหน่งเป็นคณะกรรมการระดับสำคัญหลายตำแหน่งของ Association of Theological Schools ทั้งในสหรัฐฯ และแคนาดา เป็นสมาชิกและอดีตประธานสมาคมศาสนาสีดำซึ่งเป็นกลุ่มนักคิดของคนจากทั่วประเทศผู้เข้าร่วมในการศึกษาประสบการณ์ทางด้านศาสนาของชาวแอฟริกัน – อเมริกัน ตัวเขาและภรรยาที่มีชื่อว่า Lynne Platt Newsome มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน Dr. Clarence G Newsome ทำหน้าที่ในฐานะคณะกรรมการทรัพยากรบุคคลและคณะกรรมการการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ Duke University เคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการกิตติมศักดิ์รวมถึงยังเป็นสมาชิกคณะกรรมการวิชาการด้วย ส่วนสมัยตอนที่ศึกษาในระดับปริญญาตรีเองเขาก็เคยเป็นอดีตสมาชิกทีมฟุตบอลรวมถึงได้รับการเสนอชื่อถึง 2 ครั้ง สู่การประชุมทีม ส่วนตอนเรียนระดับปริญญาเอกเขาก็ได้รับรางวัลพร้อมทุนการศึกษาจำนวนมาก รวมถึงได้รับรางวัลอันทรงเกียรติของ James B. Duke ด้วย
จากประวัติต่างๆ ของ Dr. Clarence G Newsome ต้องยอมรับว่าเป็นคนที่มีความสามารถมากจริงๆ กับเรื่องของการทำสิ่งต่างๆ ที่เขาได้รับตำแหน่งไล่ไปตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงการทำงาน ถือว่าเป็นคนที่เหมาะสมกับการดำรงตำแหน่งต่างๆ ตามที่เขาเคยได้รับตำแหน่งมาอย่างแท้จริง ที่สำคัญไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจกับการที่เขาจะเป็นผู้ได้รับการยอมรับในเรื่องของสิทธิและเสรีภาพจากคนอื่นเพราะเขาคือบุคคลที่น่าเคารพและมองในมุมมองที่เข้าใจคนอื่นอยู่เสมอ