www.undergroundrailroad.org-cincinnati soldiers

Underground Railroad มีความหมายตรงตัวว่ารถไฟใต้ดิน แต่ทว่าเรื่องราวที่จะเล่ากันต่อไปนี้ไม่ได้โฟกัสไปที่รถไฟใต้ดินเลย แต่เป็นเรื่องทาสที่พยายามหลบหนีความโหดร้าย ในอดีตนั้นอเมริกาเหนือกับอเมริกาใต้ จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของ เศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์ รวมไปถึงสังคม ที่มีความแตกต่างกันอย่างมาก อเมริกาเหนือจะเป็นประเทศที่ต่อต้านระบบทาส หรือการเลี้ยงทาส เนื่องมาจากอเมริกาเหนือเป็นประเทศอุตสาหกรรม จริงทำให้ทาสนั้นไม่ได้มีความจำเป็นมากนัก แต่ในอเมริกาใต้อาชีพหลักส่วนใหญ่เป็นการเกษตรที่ใช้แรงงานจากทาส โดยเฉพาะไร่ฝ้าย ที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของอเมริกาใต้ จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ในอดีตยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือใช้มาช่วยมากนัก จะต้องใช้แรงงานคนซะส่วนใหญ่ จึงทำให้อเมริกาใต้ยังคงมีการเลี้ยงทาสอยู่
ชีวิตความเป็นอยู่ของการเป็นทาสนั้นไม่ดีนัก แน่นอนอยู่แล้วว่าคงไม่มีใครต้องการที่จะเป็นทาสถูกรับไร้ อยู่ภายใต้อำนาจของใครคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน จึงได้มีเหตุการณ์ที่เรียกว่า Underground Railroad ขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ผู้ต่อต้านการเลี้ยงทาส ให้ความช่วยเหลือทาสในการหลบหนีจากการถูกใช้แรงงาน โดยมีนาย Issac Hopper ผู้ซึ่งเป็นบิดาแห่งรถไฟใต้ดิน ได้สร้างระบบการช่วยเหลือทาสขึ้นมา เขาร่วมมือกับชาวคริสต์เตียน คณะแควกเกอร์ จากเมืองฟิลาเดเฟีย ในการช่วยเหลือครั้งนี้ ซึ่งหลังๆมา คนในเมืองหลายๆ เมืองต่างก็ให้ความร่วมมือในการให้พื้นที่แก่ทาสในการหลบหนีอย่างเป็นความลับ ซึ่งจริงๆแล้ว การหลบหนีทาสไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะการหนีทางรถไฟใต้ดินเท่านั้น เพราะทาสส่วนใหญ่ที่หลบหนีจะใช้การเดินเท้ามากกว่า ในการหลบหนีแต่ละครั้งก็เป็นไปด้วยความยากลำบาก บางจะต้องจบชีวิตลงเลยก็มี การเดินทางหลบหนีจะเป็นจะต้องทำในตอนกลางคืน ซึ่งผู้หลบหนีจะใช้ดาวในการนำทาง คือดาวเหนือนั่นเอง เพราะทาสทั้งหลายหนีจากอเมริกาใต้ ไปยังอเมริกาเหนือ ในการหลบหนีเป็นไปด้วยความยากลำบาก จะต้องหลบๆ ซ่อนๆ และเมื่อเดินทางมาถึงสถานีรถไฟ ก็จะมีผู้ที่คอยให้การช่วยเหลือมารอ อยู่ โดยในการลบหนีที่ต้องเดินด้วยเท้ามาก่อนนั้น ทำให้รถไฟแต่ละขบวนมีเวลาที่ออกจากสถานีไม่แน่นอน และจะต้องระมัดระวังอยู่ตลอดว่าจะถูกจับได้เมื่อใด ดังนั้นการช่วยเหลือในครั้งนี้ถือว่าจะต้องระวังทั้งตัวของทาสเอง และผู้ช่วยเหลือเองด้วย
เหตุการณ์พาทาสหลบนี้ครั้งนี้ สร้างความไม่พอใจให้กับชาวอเมริกาใต้ ผู้ซึ่งเป็นเจ้าของทาสเป็นอย่างมาก เพราะแน่นอนว่าเมื่อทาสของเขาหลบหนีไป ย่อมมีผลกระทบกำการใช้ชีวิตของเขาอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเจ้าของทาสคนใด ที่ใช่แรงงานทาสในด้านของการเกษตร จึงทำให้ขาดแรงงาน จนมีการสร้างกฎหมายขึ้นมาไล่ล่าทาสที่หลบหนี หรือที่เรียกว่า Fugitive Slave Law ซึ่งผลที่เกิดขึ้นกลับกันเพราะจากที่ออกฎหมายนี้มา ยิ่งทำให้พสกที่ต่อต้านระบบทาสได้ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือมากขึ้น จนกระทั่งเวลาผ่านไป โลกมีการพัฒนา ได้ยกเลิกระบบทาสลงแล้ว ก็ทำให้ทาสหลายๆ คนที่เคยอพยพมา ต่างก็กลับไปยังภูมิลำเนาเดิมของตนเองในที่สุด