แนวคิดการเลิกทาสของประเทศฝรั่งเศสนี้มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง โดยกษัตริย์หลุยส์ที่ 14 ในขณะนั้นได้ออกมาประกาศตั้งแต่ศตวรรษที่14 อนุญาตให้มีทาสในอาณานิคมได้ แต่ถ้าหากทาสคนไหนสามารถเดินทางมาถึงประเทศฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแผ่นดินแม่ได้จะได้รับอิสรภาพทันที ในตอนนั้นประเทศอังกฤษไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องทาสเอาไว้เลย รมทั้งไม่มีกฎหมายเกี่ยวกับทาสด้วย แต่ก็มีกฎหมายปกป้องสิทธิประชาชน ในเรื่องของป้องกันการกักขังหน่วงเหนี่ยวโดยไม่ชอบธรรม เพราะฉะนั้นถ้าเจ้านายมีทาสและกักขังหน่วงเหนี่ยวเอาไว้ก็ผิดกฎหมายในข้อนี้ แต่จะกล่าวว่าคนนี้เป็นทาสของเราไม่ได้ เนื่องจากกฎหมายอังกฤษในขณะนั้นไม่ได้นิยามคำว่าทาส ว่าคืออะไร

อย่างไรก็ตาม เรื่องทาสในตอนแรกมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรมากนัก เนื่องจากในภาคบริเวณยุโรปมีประชากรจำนวนเยอะมากพอสมควร และพื้นที่ทำกินซึ่งต้องใช้แรงงานคนก็มีจำนวนไม่เยอะเท่าไหร่ รวมทั้งพืชเศรษฐกิจก็ไม่ค่อยมี แค่ใช้ระบบไพร่ศักดินาก็เพียงพอแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องทาสจึงไม่ได้เกี่ยวกับทางเศรษฐกิจแต่เป็นปัญหาทางจริยธรรมเสียมากกว่า แปลว่าในอังกฤษหรือฝรั่งเศสจะมีทาสก็ได้ คือ ไปซื้อทาสมาแล้วก็นำมารับใช้ส่วนตัว ในงานทั่วไป ถึงจะผิดกฎหมายแต่ไม่ได้ร้ายแรงอะไรมาก อีกทั้งยังไม่มีการใช้แรงงานทาสแบบทารุณกดขี่อย่างที่เราเห็นตามละคร

แต่เรื่องนี้มันกลับมีความรุนแรงขึ้น เหมือนเปลวไฟที่โดนน้ำมัน คือเมื่ออังกฤษและฝรั่งเศสเริ่มสร้างอาณานิคมในโลกใหม่ โดยมีจำนวนประชากรน้อย แต่มีพืชเศรษฐกิจซึ่งต้องใช้แรงงานจำนวนมาก เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตลอดปี อย่างฝ้ายกับอ้อย จึงได้มีการนำแรงงานทาสจากแอฟริกามาใช้ในอาณานิคมเหล่านี้ ซึ่งยังไม่ผิดกฎหมายอยู่ดี เนื่องจากกฎหมายของประเทศแม่อย่างหนึ่ง ส่วนกฎหมายของอาณานิคมก็อีกอย่างหนึ่ง จากจุดเริ่มต้นนี้เองที่มีการใช้แรงงานทาสอย่างเป็นล่ำเป็นสัน รวมทั้งเจ้านายก็ใช้วิธี ทารุณ กดขี่อย่างรุนแรง ใช้กำลัง ความเจ็บปวดในการควบคุมทาส เพราะจำนวนทาสมีมากกว่าประชากรเป็น 10 เท่า

ความโหดร้ายของการใช้แรงงานมนุษย์ดำเนินเรื่อยมา จนถึงศตวรรษที่ 18 เริ่มมีแนวคิดด้านสิทธิมนุษยชน คนในประเทศอังกฤษกับฝรั่งเศส มองว่าการใช้แรงงานทาสเป็นเรื่องผิดมนุษย์ธรรม จึงมีการกดดันรัฐบาลให้จัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เริ่มต้นจากห้ามมีทาสในประเทศอังกฤษก่อน ส่วนฝรั่งเศสมีการเลิกทาสไปพร้อมกับตอนปฏิวัติฝรั่งเศส ซึ่งการปฏิวัติฝรั่งเศสในครั้งนี้เกิดขึ้นในยุคกษัตริย์หลุยส์ที่ 14 มีการนำมาซึ่งยุคใหม่ มีการเจริญเติบโตของประชาธิปไตยเสรีนิยม ฟื้นฟูสถาบันพระมหากษัตริย์ ยุคสมัยแห่งความเท่าเทียมเกิดขึ้นอย่างช้าๆ และเลิกทาสในที่สุด